การดูแลสุขภาพช่องปากสำหรับเด็ก

ปัญหาการดูสุขภาพฟันที่พบในเด็ก

ความสนใจ และการเอาใจใส่เรื่องสุขอนามัยของช่องปากในเด็ก  ๆ นั้นจะมีความแตกต่างกันออกไป โดยส่วนมากพบว่ากลุ่มเด็กวัยหัดเดินจะให้ความร่วมมือในการแปรงฟันน้อย ส่วนกลุ่มเด็กวัยโตขึ้นอาจมีความรู้สึกสนใจสิ่งอื่นที่คิดว่าสำคัญมากกว่าการแปรงฟัน ซึ่งปัญหาเหล่านี้คุณพ่อ คุณแม่ อาจพบได้ในการดูแลชีวิตประจำวันของเด็กๆ

เคล็ดลับสำหรับเด็กวัยหัดเดิน:

เด็กวัยหัดเดินเป็นวัยที่เริ่มมีฟันขึ้นและเริ่มกินอาหารหลากหลาย การฝึกแปรงฟันให้เป็นกิจวัตรประจำจึงเป็นสิ่งสำคัญ เราจึงขอแนะนำเคล็ดลับสำหรับเด็กวัยหัดเดิน:

  1. เลือกยาสีฟันสำหรับเด็กที่มีความอ่อนโยนและมีรสชาติที่เด็กๆชื่นชอบ ทั้งนี้ควรใช้ยาสีฟันในปริมาณเล็กน้อย และคำนึงถึงปริมาณฟลูออไรด์ที่เหมาะสมเพื่อช่วยป้องกันการเกิดฟันผุ ภายใต้คำแนะนำจากทันตแพทย์ประจำตัวของเด็กๆ
  2. เลือกแปรงสีฟันที่มีขนาดเหมาะสมกับลูกน้อยของคุณ โดยสามารถตรวจสอบที่บรรจุภัณฑ์เพื่อเลือกซื้อให้เหมาะสมกับช่วงวัยของเด็ก อีกทั้งการเลือกแปรงที่มีตัวการ์ตูนที่เด็กๆชื่นชอบจะช่วยทำให้การแปรงฟันกลายเป็นเรื่องสนุก และสร้างแรงกระตุ้นให้เด็กต้องการแปรงฟัน NUS CBME
  3. เด็กวัยหัดเดินเป็นวัยเริ่มเรียนรู้ตามสิ่งคุณพ่อ คุณแม่ทำเป็นตัวอย่าง ดังนั้นลองนั่งแปรงฟัน หรือยืนหน้ากระจกเพื่อให้ลูกน้อยของคุณสามารถมองเห็นคุณขณะแปรงฟันจากนั้นจึงลองให้ลูกน้อยของคุณจับแปรงสีฟันแล้วลอง แปรงฟันของคุณ วิธีนี้จะช่วยทำให้ลูกน้อยของคุณเกิดความคุ้นเคยกับขั้นตอน และยอมให้คุณแปรงฟันให้กับพวกเขาในแบบเดียวกันได้ในที่สุด อย่างไรก็ตามห้ามใช้แปรงสีฟันร่วมกัน เนื่องจากแบคทีเรียสามารถย้ายจากช่องปากของคุณไปยังลูกน้อยได้ ทำให้เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดฟันผุ
    NUS CBME

    รูปภาพ: สำหรับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 2 ปี ควรใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ และบีบยาสีฟันในปริมาณน้อยกว่าขนาดเม็ดถั่วเขียว

ข้อควรจำ: แม้ว่าลูกน้อยในวัยหัดเดินของคุณจะแปรงฟันเองได้ แต่พวกเขาก็ยังไม่มีทักษะความชำนาญในการแปรงฟันให้ทั่วถึง ดังนั้นคุณยังต้องค่อยให้ความช่วยเหลือ และเลือกใช้ยาสีฟันที่มีรสชาติ และมีส่วนผสมของฟลูออไรด์เพื่อช่วยให้สารเคลือบฟันแข็งแรง ทั้งนี้ควรใช้ยาสีฟันในประมาณเล็กน้อยเท่านั้นเพื่อควบคุมปริมาณของฟลูออไรด์ให้เหมาะสม และอย่าลืมเก็บยาสีฟันให้พ้นจากมือของเด็กอยู่เสมอ

เคล็ดลับสำหรับเด็กวัยโต

การไม่แปรงฟันนั้นก็เหมือนกันกับการไม่ทำการบ้าน ไม่ทำความสะอาดห้องนอนให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่อาบน้ำ ซึ่งโดยธรรมชาติของเด็กๆมักจะมีอคติต่อกิจกรรมที่ไม่รู้สึกเพลิดเพลิน หรือสนุก แต่เนื่องด้วยความสำคัญของสุขภาพช่องปากในวัยเด็กที่จะมีผลต่อเนื่องไปจนพวกเขาเติบโตขึ้น การโน้มน้าวให้พวกเขาแปรงฟันจนเป็นลักษณะนิสัย ร่วมกับการส่งเสริมพฤติกรรมเพื่อการมีสุขภาพดีจึงเป็นส่วนหนึ่งของการเลี้ยงดูลูกน้อยที่สำคัญ ซึ่งคุณพ่อ คุณแม่ควรแสดงเป็นตัวอย่างที่ดีอยู่เสมอ และเน้นย้ำถึงประโยชน์ในแง่ให้พวกเขาทราบเช่น: ฟันขาวทำให้ดูดี ลมหายใจสดชื่น และไม่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์เมื่อพูดคุยกับคนอื่น ๆ

รวมทั้งให้เด็กๆได้รับการตรวจสุขภาพช่องปากอยู่เป็นประจำ เพื่อให้พวกเขาทราบว่าปัญหาต่างๆ เช่น: ฟันผุ ฟันร่วง อาการปวดฟัน รับประทานอาหารไม่อร่อย และถูกผู้อื่นล้อเลียน นั้นจะไม่เกิดขึ้นหากพวกเขาให้ความร่วมมือ

นี่เป็นเคล็ดลับการดูแลสุขภาพช่องปากสำหรับสำหรับเด็กโต:

  1. ให้เด็กมีส่วนร่วมในการเลือกแปรงสีฟันของพวกเขา ในปัจจุบันมีแปรงสีฟันสำหรับเด็กทุกวัยที่มาพร้อมตัวการ์ตูนยอดนิยมมากมายที่มีแสง เลเซอร์และเสียงเพลง ทั้งนี้ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าแปรงสีฟันได้รับการออกแบบสำหรับช่วงอายุของเด็กๆ เพื่อจะได้มีขนาดพอดีกับช่องปากและสามารถเข้าถึงได้ทุกพื้นที่

    Tips for Older Children

    ลองให้เด็กๆ เลือกยาสีฟันของพวกเขาเองตามความชื่นชอบในรสชาติ และสีสันของแต่ละคน  ทั้งนี้อย่าลืมว่าเด็กที่มีอายุ 2-5 ปีควรใช้ยาสีฟันในปริมาณที่มีขนาดเท่าเมล็ดถั่วเขียว สำหรับเด็กที่มีอายุมากกว่า 6 ปี ขึ้นไปให้ใช้ปริมาณยาสีฟันบีบเต็มแปรงสีฟัน  และเน้นย้ำให้เด็ก ๆ บ้วนยาสีฟันออกจากปากไม่ควรกลืนยาสีฟัน

  2. แปรงฟันก่อนรับประทานอาหารเป็นสิ่งที่ดี! การแปรงฟันก่อนการรับประทานอาหารจะดีต่อสุขภาพช่องปาก ซึ่งช่วยกำจัดคราบแบคทีเรียก่อนการบริโภคน้ำตาล เพราะแบคทีเรียแม้เพียงจำนวนเล็กน้อยภายในช่องปากสามารถเปลี่ยนน้ำตาลไปเป็นกรด และก่อให้เกิดฟันผุได้ นอกจากนี้ฟลูออไรด์ในยาสีฟันยังช่วยทำให้สารเคลือบฟันแข็งแรงขึ้น ทำให้ผิวฟันทนต่อกรดในอาหาร และเครื่องดื่มต่าง ๆ  เช่น น้ำส้ม หรือเครื่องดื่มน้ำอัดลม ดังนั้นจึงไม่ควรหลีกเลี่ยงการทำความสะอาดฟันก่อนรับประทานอาหารเช้า  

นี่คือสิ่งที่ต้องทำเพื่อสุขภาพช่องปากที่ดี

คำแนะนำสำหรับเด็ก ๆ ทุกคน เพื่อการดูแลช่องปากที่ดี:

  1. แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งด้วยแปรงสีฟันที่เหมาะสมตามช่วงอายุ ไม่ควรใช้แปรงสีฟันร่วมกัน การเลือกแปรงแนะนำขนแปรงชนิดอ่อนนุ่ม มีตัวการ์ตูนหรือสีที่เด็กๆชื่นชอบเพื่อช่วยในการระบุเจ้าของแปรงได้ ทั้งนี้คุณพ่อ คุณแม่ควรให้คำแนะนำและช่วยเหลือจนกว่าเด็กๆจะมีความชำนาญในการแปรงฟันได้อย่างสะอาดทั่วถึงด้วยตัวเอง

  2. ใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์: สำหรับเด็กทารก และเด็กวัยหัดเดินให้ใช้ยาสีฟันเพียงที่มีปริมาณน้อยกว่าเมล็ดถั่วเขียว สำหรับเด็กที่มีอายุ 2 – 5 ปี ให้ใช้ในปริมาณยาสีฟันเท่ากับเมล็ดถั่วเขียว และเด็กที่มีอายุ 6 ปีขึ้นไป ให้ใช้ยาสีฟันในปริมาณปกติเหมือนกับผู้ใหญ่

     

    Good Oral Health

  3. ควรเริ่มการทำความสะอาดระหว่างซอกฟันตั้งแต่เด็ก เมื่อฟันของเด็กเริ่มชิดกันกับฟันอื่น ๆ ให้ใช้แปรงซอกฟัน หรือไหมขัดฟันที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับเด็ก หรือเพื่อการขัดฟันโดยเฉพาะ

  4. ชีส เป็นหนึ่งในของทานเล่นที่ดีต่อสุขภาพสำหรับฟันของเด็ก ช่วยเพิ่มแคลเซี่ยมที่ฟันต้องการ และช่วยกระตุ้นต่อมน้ำลายให้ทำความสะอาดเศษอาหารออกจากปาก และช่วยปกป้องกรด

  5. จำกัดการบริโภคเครื่องดื่มที่มีคุณสมบัติเป็นกรด (น้ำผลไม้ และโซดา)

  6. ควรพบทันตแพทย์เป็นประจำเพื่อทำการเฝ้าติดตามสุขภาพเหงือกและฟัน รวมถึงการเติบโตของฟันกราม นั้นควรเริ่มทำตั้งแต่เด็กมีอายุ 12 เดือน

  7. สำหรับเด็กวัยโตที่มีการเล่นกีฬา และการเข้าร่วมกิจกรรมที่มีอันตราย อาจใช้ฟันยางเพื่อป้องกันการบาดเจ็บของฟัน และช่องปาก